ในขั้นตอนของการออกแบบนั้น มีปัจจัยสำคัญอยู่สองสามปัจจัยที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในการชุบเคลือบสังกะสี เช่น การปล่อยช่องแรงดันและการเปิดช่องให้ของเหลวไหลออก ขนาดโดยรวม การออกแบบจุดยกวัตถุ การจัดวางองค์ประกอบ และขนาดที่แตกต่างของเหล็กก็เป็นสิ่งที่ต้องพึงระวังเป็นอย่างมาก จึงจะสามารถส่งผลให้งานสำเร็จด้วยดี
ทีมช่างเทคนิคของยูเนี่ยนกัลวาไนเซอร์ จะทำงานร่วมกับดีไซน์เนอร์ และผู้ออกแบบอุปกรณ์การทำงาน เตรียมงานในขั้นตอนการออกแบบเพื่อที่จะได้ผลิตชิ้นงานที่มีคุณภาพสูง ในราคาที่เหมาะสม และรวมถึงกับการขนส่งที่รวดเร็ว โดยมีสิ่งสำคัญหลักๆที่ต้องพิจารณาในขั้นตอนการออกแบบก่อนการชุบเคลือบสังกะสี
วัสดุของชิ้นงาน
ชิ้นงานที่มีส่วนประกอบของเหล็กสามารถนำมาชุบร้อนได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเหล็กดีเหนียว โลหะผสม เหล็กกล้า โลหะหรือเหล็กหลอมขึ้นรูป สามารถนำมาทำการชุบเคลือบแบบชุบร้อนได้เช่นเดียวกันโดยสังกะสีจะเคลือบผสานอยู่ในชิ้นงานและห่อหุ้มชิ้นงานไว้ได้อย่างดี
ขนาดและรูปร่าง
อ่างชุบขนาดใหญ่และอุปกรณ์ยกพ่วงวัสดุของเราสามารถให้บริการชุบเคลือบสังกะสีวัสดุอุปกรณ์ต่างๆได้หลากหลายขนาดและรูปร่าง โครงสร้างขนาดใหญ่กว่าอ่างชุบสามารถชุบเคลือบแบบ2ขั้นตอน ตามลักษณะของรูปร่างโดยอาจมีการสลับจุ่มเคลือบหัวท้ายของวัสดุ
เราขอแนะนำให้คุณได้ปรึกษากับทางทีมช่างเทคนิคของเราเกี่ยวกับการชุบเคลือบสังกะสีสำหรับวัสดุที่มีโครงสร้างขนาดใหญ่ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการออกแบบการเคลือบโลหะของเราสามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับวัสดุของคุณ
การควบคุมการระบายไอน้ำ การเติมสารเคมี และการระบายสารเคมีออก
การสร้างโพรงอากาศในโครงสร้างที่ปิดทึบเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาในแง่ของความปลอดภัย เพื่อควบคุมการระบายไอน้ำระหว่างกระบวนการชุบเหล็ก การเปิดช่องทางระบายไอน้ำที่เหมาะสมยังช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าพื้นผิวของโลหะนั้นได้ถูกเคลือบอย่างสม่ำเสมอ ถังและภาชนะปิดสนิทจะต้องมีช่องให้กรดที่เป็นสารละลายสำหรับจุ่มโลหะ สารเคมีและสังกะสีเหลวไหลผ่านเข้าไปได้ รวมถึงสามารถเติมไหลขึ้นไปด้านบนได้ ความสามารถในการเปิดปิดจากด้านบน ทำให้อากาศไม่ถูกกักไว้ในถังใส่ของเหลว และยังทำให้การระบายของเหลวออกจากถังทำได้อย่างหมดจดอีกด้วย
การบิดเบี้ยว
การชุบสังกะสีจะไม่ก่อให้เกิดการบิดของวัสดุหากเราทำการออกแบบและปรับแต่งอุปกรณ์การชุบตามคำแนะนำดังต่อไปนี้อย่างเคร่งครัด
ระหว่างการชุบสังกะสี สังกะสีและเหล็กจะทำปฎิกิริยาระหว่างกัน โดยที่สังกะสีจะแทรกซึมเข้าไปในเนื้อเหล็กภายใต้อุณหภูมิ 455 – 460 องศาเซลเซียส ซึ่งเหล็กจะไม่เปลี่ยนแปลงแรงดันจากภายใน แต่อุณหภูมิระดับนี้ในระหว่างการชุบสังกะสีแบบชุบร้อนอาจทำให้เหล็กคลายแรงดันและอาจทำให้เกิดความแปรปรวนของแรงดัน ซึ่งจะทำให้เหล็กเกิดการบิดตัวได้
อย่างไรก็ตาม แรงดันในเนื้อเหล็กอาจเกิดขึ้นได้ นั่นเป็นเรื่องปรกติระหว่างการผลิต การเชื่อมเหล็กก่อให้เกิดความแตกต่างของอุณหภูมิเป็นอย่างมาก แม้จะเป็นจากพื้นที่เชื่อมเล็กๆ แต่สามารถส่งผลให้เกิดแรงดันกับเนื้อเหล็กทั้งหมด เพี่อที่จะลดการเกิดแรงดันระหว่างการเชื่อม ส่วนประกอบต่างๆต้องไม่ถูกบีบ ถูกทำให้ดีดตัว หรือ ถูกอัด ระหว่างทำการเชื่อม เหล็กที่มีความหนาต่างกันไม่ควรนำมารวมไว้ด้วยกัน และ การเชื่อมชิ้นส่วนต่างๆควรถูกจัดวางไว้ให้อยู่บนตำแหน่งที่ถูกต้องเพื่อปรับสมดุลแรงดันให้เหมาะสม
แผ่นเหล็กแบนขนาดใหญ่จะมีแนวโน้มที่จะเกิดการโค้งงอได้มาก จึงจำเป็นต้องออกแบบให้มีแผ่นเหล็กเสริมกำลังคานและสร้างกรอบรอบๆตะแกรงเหล็ก เหล็กกล้า และเหล็กเชื่อมไม่สามารถชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนด้วยกันได้ ต้องแยกชุบเท่านั้น
เราสามารถลดการเกิดการบิดเบี้ยวสำหรับงานขึ้นรูปได้โดยการทำนั่งร้าน หรือตะแกรงเหล็กที่มีคานรับน้ำหนักด้านบนหรือด้านล่างในขนาดต่างๆ
พื้นที่สำหรับการเชื่อม
ทุกพื้นที่ของเหล็กหล่อขึ้นรูปที่ถูกเชื่อมต่อกันด้วยรูปทรงตัวที หรือ รูปทรงตัด 45 องศา หรือ ในพื้นที่ปิดจำเป็นที่ต้องมีช่องระบายความร้อน
วัสดุโครงสร้างที่เป็นเสาและแผ่นเหล็กเสริมความแข็งแกร่งควรถูกเจียรให้สั้นลงเพื่อให้สังกะสีเหลวไหลไปตามพื้นผิวได้อย่างสะดวกระหว่างการชุบเคลือบสังกะสี
จุดยก
ขนาด บริเวณ และ การออกแบบจุดยกวัตถุสามารถลดการเกิดการบิดเบี้ยวของวัสดุที่มีน้ำหนักมากและวัสดุที่มีโครงสร้างที่ซับซ้อนได้
ระหว่างขั้นตอนการออกแบบวัสดุนั้นๆ ต้องพิจารณาถึงจุดยกของวัสดุเช่นเดียวกัน ทางทีมช่างเทคนิคของยูเนี่ยนกัลวาไนเซอร์ สามารถให้คำแนะนำในจุดที่เหมาะสมที่สุดในการใช้เป็นจุดยกวัสดุนั้นๆได้